หลายคนอาจจะคุ้นหูกับ U.N.K.L.E. ที่ได้ออกรองเท้ารุ่น NIKE SB
U.N.K.L.E. มาแล้ว ซึ่งกลายมาเป็นรุ่นที่หายากและมีความนิยมสูง
แต่เมื่อพูดถึง DJ Shadow อาจไม่ค่อยคุ้นหูสำหรับเด็กๆรุ่นใหม่
SUPERRZAAAP! เลยขอเอาประวัติฉบัยย่อมาให้อ่านกัน
DJ Shadow หรือชื่อจริงคือ Josh Davis ดีเจ, นักสะสมแผ่นเสียง,
โปรดิวเซอร์ หัวก้าวหน้าชาวอเมริกัน เจ้าของผลงานอัลบั้ม
Entroducing สุดยอดดนตรีแนว Trip Hop, Hip Hop บรรเลง
แบบช้าๆ บนซาวด์ดนตรีที่หลากหลายทั้ง Jazz, Funk, Ambient,
Rock และเสียง Abstract ที่ก่อรูปขึ้นจาก Samples ล้วนๆ (Josh สร้างสรรพเสียงที่หลากหลายอันเกิดขึ้นจากกองเทป, กองแผ่นเสียง
เก่าๆ, เครื่องเล่นเทป, เทนเทเบิล 2 ตัว, และใช้ Drum Machine
วินเทจเก่าเก็บอันเป็นเครื่องดนตรีอิเลคโทรนิคเพียงชิ้นเดียว)
DJ Shadow เริ่มต้นอาชีพของเขาด้วยการเป็นฝึกหัดเป็นดีเจรายการ
วิทยุของมหาวิทยาลัย อันเป็นที่ที่ทำให้เขารู้จักเครื่องไม้เครื่องมือ
และอุปกรณบันทึกเสียงมากพอที่จะได้นำไปพัฒนาทำดนตรี
Hip Hop แนวทดลองในแบบของเขาเอง และได้มีโอกาสออก
ผลงานกับตราแผ่นเสียง Solesides Records ร่วมกับผองเพื่อนใน
California กับซิงเกิ้ลที่ค่อยๆ สร้างชื่อให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักอย่าง
In / Flux และ Lost and Found ที่มาเข้าหูของ James Lavelle
(ที่ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันในภายหลัง) เจ้าของค่าย Mo'Wax
ชักชวนมาเซ็นสัญญาออกผลงานในค่าย โดยเฉพาะสุดยอดอัลบั้ม
สำคัญ Entroducing... ที่ออกจำหน่ายในปี 1996 และดูเหมือนว่า โลกแห่งดนตรีฮิปฮอปจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
ในปี 1998 Josh เข้าร่วมโปรเจค์ U.N.K.L.E. ที่มี Jame Lavelle และ
Tim Goldsworthy (ที่ภายหลังออกไปเปิดค่าย DFA ในปัจจุบัน)
ออกผลงาน Trip Hop และ Breakbeat ที่มีนักศิลปินชื่อดังมาร่วม
Featuring เช่น Major Force, Money Mark, Beastie Boys,
Thome Yorke, Badly Drawn Boy และนักดนตรีอีกมากมายรวม
ไปถึง Futura 2000 ศิลปิน Grafiti ระดับอาวุโส ของวงการมา
ร่วมออกแบบ Art Direction และ Images ต่างๆ ทั้งหมดของ
โปรเจคท์นี้ ปัจจุบัน U.N.K.L.E. ออกอัลบั้มมาสี่ชุด และกลายเป็น
วงดนตรีเฉพาะกิจ มีนักดนตรีเข้าออกมากมาย และตัวดนตรีก็เกิน
กว่าคำจำกัดความเมื่อมีความเป็น Alternative Rock, Downtempo
และ Electronica ผสมผสานกัน
หลังจากอัลบั้ม Psyence Fiction อันเป็นงานชุดแรกของ U.N.K.L.E.
Josh ก็แยกออกมาทำงานของตัวเองเช่นเดิม โดยออกผลงานรวม
ซิงเกิ้ลยุคแรกๆของเขาชื่อว่า Preemptive Strike, อัลบั้มชุดที่สอง
The Private Press ที่มีซิงเกิ้ล Six Day อันมีซาวด์ไม่ต่างจาก
Entroducing มากนัก ตัว VDO ได้ หว่อง คาไว มากำกับให้พร้อมทั้ง
การร่วมทำงานกับศิลปินอื่นๆ, จัดตั้งตราแผ่นเสียงของตัวเอง, ประกอบ
กับการทัวร์คอนเสิร์ทอันยาว จนอัลบั้มชุดที่สาม The Outsider ในปี
2006 ทำให้แฟนๆ ของ Dj Shadow งงกันทั่วหน้า เมื่องานในชุดนี้
เต็มไปด้วย เสียงร้องแร็ปเต็มไปทั่วทั้งอัลบั้ม ตัวดนตรีมีกลิ่นอาย
เม็กซิกันและแก็งค์เสตอร์ไล่ล่า ไม่มีเค้าโครงของความเป็น Abstract
หรือ Trip Hop อึมครึม ซึ่ง Josh ไม่สนแต่อย่างใด เมื่อเขามองหา
บางสิ่งที่ไกลเกินกว่าการทำซ้ำดนตรีในแบบอัลบั้ม Entroducing..
ล่าสุด Dj Shadow ร่วมงานกับ Cut Chemist ในโปรเจคท์ซีรี่ยส์ผลงาน
Mixtape อัลบั้มทีหลอมเอาดนตรี Soul, Funk, Rock ที่แผ่นเสียงสปีด
45 RPM ขนาด 7" เท่านั้น อันเป็นการโชว์คอลเลคชั่นคลังแผ่นเสียง
และตบหน้ากระแสดิจิตอลมิวสิค โดยมีชื่อว่า Brain Freez, product
Placement, Hard Sell และ Hard Sell (Encore) และตระเวณ
เดินทางแสดงสดทั่วโลก
และในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ เป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้เห็นการ
แสดงสดของ Dj Shadow ที่ Club Culture ไปฟัง และดูให้เห็นกับตา
กับสรรพเสียงของดนตรี Hip Hop, Funk, Soul, Electronica จังหวะ
ช้าๆ Abstract และซาวด์ดนตรีอันยากที่จะบอก แหล่งที่มา เสียงสแครช,
การสร้างเสียงโดยเทินเทเบิล, สกอร์หนังเก่าๆ, การเล่น Beatobox,
จอยไมค์ และโปรแกรมมิ่งอันพิลึกพิลั่น เท่าที่สองของมือมนุษย์จะทำได้ บวกกับภาพวิชวลกราฟฟิคสวยๆ โดย Electrobacillus ที่จะทำให้
แฟนๆ ของ DJ Shadow ได้โลดแล่นผจญภัยทางเสียง ที่ก้าวข้ามผ่าน
กำแพงการแบ่งแนวดนตรี, รูปแบบเดิมๆ และบางสิ่งบางอย่างที่
พิเศษเกินกว่า การคาดเดาใดๆทั้งสิ้น ........แล้วไปเจอกัน
แปลและเรียบเรียงโดย กิติคุณ ทรงประเสริฐ
suprsub.wordpress.comwww.supersub-organizer.com
